เมนู

อรรถกถาชตุกัณณีมาณวกปัญหานิทเทสที่ 11


พึงทราบวินิจฉัยในชตุกัณณีสูตรที่ 11 ดังต่อไปนี้.
บทว่า สุตฺวานหํ วีร อกามกามึ ข้าแต่พระองค์ผู้แกล้วกล้า ข้า-
พระองค์ได้ฟังแล้วว่าพระองค์ไม่มีความใคร่กาม คือข้าพระองค์ได้ฟังแล้ว
ว่าพระพุทธองค์ไม่มีความใคร่กาม เพราะไม่ประสงค์กามทั้งหลาย โดย
นัยมีอาทิว่า อิติปิ โส ภควา ดังนี้. บทว่า อกามมาคมํ ผู้ไม่มีกาม คือ
ข้าพระองค์มาเพื่อจะทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ไม่มีกาม. บทว่า สหา-
ชเนตฺต
คือ ผู้มีญาณดังดวงตาอันเกิดพร้อมกับการตรัสรู้. บทว่า
ยถาตจฺฉํ คือ ธรรมอันแท้จริง. ชตุกัณณีมาณพทูลวิงวอนอยู่อีกว่า
ขอพระองค์จงทรงบอกแก่ข้าพระองค์เถิด. เพราะว่าชตุกัณณีมาณพควรจะ
ทูลวิงวอนอยู่แม้พันครั้ง จะกล่าวพูดไปทำไมถึงสองครั้ง.
ความแห่งบททั้งหลายนี้ว่า อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ
ได้กล่าวไว้พิสดารแล้วในหนหลัง.
พระผู้มีพระภาคเจ้าเป็น วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน เพราะเป็นผู้ถึงพร้อม
แล้วด้วยวิชชาและจรณะ. ในบทนั้น บทว่า วิชฺชา ได้แก่วิชชา 3 บ้าง
วิชชา 8 บ้าง. วิชชา 3 พึงทราบโดยนัยที่กล่าวแล้วในภยเภรวสูตร
นั่นแล. วิชชา 8 พึงทราบโดยนัยที่กล่าวแล้วในอัมพัฏฐสูตร. ในบทว่า
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน นั้น ท่านกล่าววิชชา 8 กำหนดเอาอภิญญา 6
พร้อมด้วยวิปัสสนาญาณและมโนมยิทธิ. พึงทราบธรรม 15 อย่างเหล่านี้
คือ การสำรวมในศีล 1 ความเป็นผู้มีทวารคุ้มครองแล้วในอินทรีย์
ทั้งหลาย 1 ความเป็นผู้รู้จักประมาณในการบริโภค 1 การประกอบความ